ลบรอยสัก
รอยสักถือว่าเป็นศิลปะบนร่างกายที่หลายคนชื่นชอบ เพราะผู้สักสามารถสร้างสรรค์รอยสักเพื่อความสวยงาม หรือเป็นสัญลักษณ์แทนบางสิ่งก็ได้ ซึ่งการสักนั้น ไม่ว่าจะขั้นตอนการออกแบบและการสักนั้นสามารถทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่นาน แต่พอถึงเวลาอยากกำจัดรอยสักออกนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่ฝังแน่นลงในผิวหนังแล้ว ผู้สักยังต้องระวังเรื่องผิวไหม้เบิร์นจากการทำด้วย เพราะฉะนั้นการลบรอยสักควรเลือกและพิจารณาการรักษาให้ดี
ทำไมต้องทำ ลบรอยสัก ที่ Dr.Tan Clinic
รอยสัก มีกี่ประเภท
รอยสักสีดำ
เป็นรูปแบบการสักที่นิยมมากที่สุด เห็นลายชัด และเป็นสีที่สามารถกำจัดออกด้วยเลเซอร์ได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด เพราะเครื่องเลเซอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถรองรับการกำจัดเม็ดสีดำได้ดี
รอยสักสีแดง
รอยสักสีแดงหรือรอยสักแบบสี เป็นรอยสักแบบใหม่ที่เพิ่งพบในช่วงหลังของเทรนด์การสัก ซึ่งรอยสักแบบสีนั้นถือว่าเป็นลายสักที่กำจัดออกได้ แต่ระยะเวลาการจางจะไม่รวดเร็วเท่ากับการกำจัดรอยสักแบบสีดำ และยังต้องใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีความสามารถในการจับเม็ดสีนั้นๆ โดยตรง รอยสักถึงจะจางลงและสลายได้ไปในที่สุด
รอยสักสีเนื้อ
รอยสักสีเนื้อถือเป็นรูปแบบใหม่ของการสัก หรือบางเคสอาจจะใช้รอยสักสีเนื้อกลบรอยสักเก่าเพื่อเป็นการลบรอยสักที่เป็นสีออก ผลลัพธ์ที่ได้จากการสักสีที่โดนกลบก็จะหายไปกลายเป็นสีเนื้อแทน ซึ่งโดยสักสีเนื้อนั้นเป็นรอยสักที่ไม่สามารถใช้เครื่องเลเซอร์กำจัดออกได้ เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีเครื่องเลเซอร์ที่จับสลายเพื่อกำจัดสิ่งนี้โดยตรง สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดรอยสักสีนี้สามารถพบและปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงได้
ข้อดีการรักษารอยสักด้วยเลเซอร์
- เป็นการรักษาที่ยิงแสงเลเซอร์สลายรอยสักได้ตรงจุด
- เป็นวิธีการกำจัดรอยสักที่สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
- เป็นวิธีการกำจัดรอยสักที่สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
การดูแลตัวเองก่อนทำ
- ลดการทาครีมบำรุงที่มีฤทธิ์เป็นกรดและดูแลความสะอาดบริเวณที่จะทำเลเซอร์ให้ดี
- พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังในบริเวณที่จะเข้ารับการรักษาโดนแสงแดดมากนัก
- หมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดความไวต่อแสง เช่น Hydroxy acids, benzoyl peroxide, retinol เป็นต้น
การดูแลตัวเองหลังทำ
- ห้ามให้บริเวณที่ทำเลเซอร์ลบรอยสักสัมผัสแดดโดยตรง
- ห้ามแกะหรือเกาในบริเวณื่ทำเลเซอร์โดยเด็ดขาด
- ทายาตามที่แพทย์แนะนำ
- ห้ามให้บริเวณที่ทำเลเซอร์โดนน้ำโดยตรง 1-2 สัปดาห์
- หากมีอาการแพ้เกิดตุ้มน้ำหรือมีอาการอักเสบควรปรึกษาแพทย์ทันที